พลังแห่งกลิ่นหอม

[labplusone]

พลังแห่งกลิ่นหอม

การบำบัดความเครียดด้วยกลิ่นหอมหรืออะโรมาเทอราปี (Aromatherapy) เป็นศาสตร์อย่างหนึ่งที่ใช้ในการรักษาดุลยภาพของร่างกายและจิตใจ เริ่มมีใช้กันตั้งแต่ปี ค.ศ.1928 ซึ่งการบำบัดด้วยกลิ่นหอมคือการนำส่วนต่างๆ ของพืชมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยหรือที่เราเรียกว่าน้ำมันสกัด โดยส่วนต่างๆ ของพืชอันได้แก่ ราก กิ่งก้าน ใบ เมล็ด เปลือก และดอก
สาเหตุที่กลิ่นสามารถรักษาสุขภาพได้นั้นเนื่องจากประสาทสัมผัสในการรับรู้กลิ่นเป็นประสาทสัมผัสชนิดเดียวที่เชื่อมสู่สมองส่วนกลางโดยตรง ซึ่งสมองส่วนกลางจะทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของสมองในระบบความจำ ควบคุมระบบการไหลเวียนโลหิต ควบคุมอารมณ์และระดับความรู้สึก ควบคุมอุณหภูมิของร่างกายและควบคุมระดับฮอร์โมนต่างๆ นอกจากนั้นประสาทสัมผัสกลิ่นยังมีความไวกว่าประสาทสัมผัสชนิดอื่นๆ ถึง 10,000 เท่า ดังนั้นการใช้กลิ่นบำบัดจึงมีผลในการปรับสมดุลของการทำงานในระบบต่างๆ โดยออกฤทธิ์ที่ระบบประสาทในสมองส่วนกลาง
ในปัจจุบันพบว่ามีการนำน้ำมันสกัดจากธรรมชาติมาผสมในยาบางประเภท เครื่องสำอางบางชนิด และน้ำหอม โดยข้อดีของน้ำมันสกัดคือไม่ก่อให้เกิดพิษตกค้างในร่างกาย เนื่องจากสารสกัดเหล่านี้จะถูกขับออกจากร่างกายโดยซึมออกตามผิวหนังในรูปของเหงื่อหรือออกมาพร้อมกับลมหายใจ และบางส่วนถูกขับออกมากับปัสสาวะ

เราสามารถใช้น้ำมันสกัดหลายวิธี เช่น การผสมน้ำอาบ ซึ่งกลิ่นหอมของน้ำมันสกัดจะผ่านเข้าสู่ร่างกายได้สองทางคือ ด้วยการสูดดมกลิ่นที่ระเหยขึ้นมาจากน้ำ และการแทรกซึมสู่ผิวหนัง นอกจากนี้ยังสามารถใช้น้ำมันสกัดด้วยวิธีการสูดดมไอระเหยหรือการนวดโดยเฉพาะการนวดจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตผ่อนคลายความเครียด ซึ่งสรรพคุณของน้ำมันสกัดที่ใช้บำบัดอาการต่างๆ มีดังนี้
1) น้ำมันลาเวนเดอร์ รักษาสมดุลของการทำงานของระบบประสาทและหัวใจ ลดอาการปวดศีรษะ ลดความดันโลหิต ช่วยให้จิตใจผ่อนคลาย ลดอาการนอนไม่หลับ แก้อาการแสบร้อนจากแผลที่ถูกไฟไหม้ และกระตุ้นภูมิคุ้มกันแก่ร่างกาย
2) น้ำมันที-ทรี ช่วยลดอาการอักเสบของโพรงจมูก ลดอาการหวัด ช่วยให้ร่างกายสดชื่น บรรเทาอาการปวดจากแมลงต่อย รักษารอยแผลเป็นจากสิว ช่วยลดการเกิดกลิ่นปาก บำรุงเหงือกและฟัน
3) น้ำมันมะนาว ช่วยควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย รักษาสมดุลของระบบการไหลเวียนน้ำในร่างกาย กระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาวในการต่อต้านเชื้อโรค ทำให้จิตใจเบิกบานและทำให้มีสมาธิ
4) น้ำมันเปปเปอร์มินท์ บรรเทาอาการหวัด ลดอาการภูมิแพ้ กระตุ้นสมองทำให้สมองปลอดโปร่ง ลดอาการอ่อนเพลีย ลดอาการปวดศีรษะ แก้วิงเวียนศีรษะ
5) น้ำมันส้ม ช่วยทำให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย ลดอาการนอนไม่หลับ รักษาอาการหวัดคัดจมูก ช่วยบำรุงผิวพรรณ
6) น้ำมันยูคาลิปตัส บรรเทาอาการหวัด ลดการอักเสบของโพรงจมูก กระตุ้นให้สมองปลอดโปร่ง ลดอาการอ่อนเพลีย แก้ปวดเมื่อกล้ามเนื้อ ลดอาการปวดและเวียนศีรษะ
7) น้ำมันโรสแมรี บรรเทาอาการอักเสบของโพรงจมูก ลดอาการซึมเศร้า บำรุงหัวใจ กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ช่วยให้ความจำดีขึ้น 8 ) น้ำมันตะไคร้หอม กระตุ้นการทำงานของร่างกาย ลดการเกิดกลิ่นอับที่เท้า ลดอาการปวดศีรษะ ไล่ยุงและแมลง
9) น้ำมันเออราเนียม ลดอาการเมื่อยล้า รักษาผิวหนังพุพอง ช่วยให้จิตใจสงบมีสมาธิ ลดความวิตกกังวล
10) น้ำมันดอกมะลิ ช่วยให้จิตใจผ่อนคลาย ลดอาการซึมเศร้า สร้างความรู้สึกมั่นใจในตนเอง และบำรุงผิวพรรณ
11) น้ำมันขิง ลดอาการหวัดคัดจมูก แก้วิงเวียนศีรษะ
12) น้ำมันกระดังงา คลายความวิตกกังวลและลดความเครียด

การบำบัดด้วยกลิ่นหอมมีพลังผลักดันและกระตุ้นความรู้สึกให้มีชีวิตชีวา ช่วยผ่อนคลายอารมณ์ ทำให้ร่างกายมีพลังในการดำเนินชีวิตต่อไป

[Chutima]

ขอบคุณค่ะที่ให้ข้อมูลดี ๆ